วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

10 วิธีฝึกให้ลูกมีนิสัยรักการอ่าน

การที่จะฝึกให้เด็กหนึ่งคนนั่งลงและตั้งใจอ่านหนังสือเป็นเรื่องเป็นราวไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะเมื่อลูกมีสิ่งอื่นล่อใจ เช่น คอมพิวเตอร์ เกม ทีวี หรือเมื่อลูกอยากออกไปเล่นข้างนอก เรามีถึง 10 วิธีที่จะช่วยจูงใจให้ลูกที่ไม่ชอบอ่านหนังสือของคุณให้มีนิสัยรักการอ่านมาฝาก และน่าจะช่วยให้เขามีนิสัยรักการอ่านไปตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้
kid and books 10 วิธีฝึกให้ลูกมีนิสัยรักการอ่าน
ให้ลูกมีความสุขกับการอ่านหนังสือ
ผู้คนมักคิดว่าส่วนมากแล้ว คนที่มีอายุเท่านั้นจะเป็นที่หมกมุ่นกับการอ่านหนังสือ คนรุ่นหลังมักใช้เวลากับการเล่นเกมหรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เล่นบน iPod  iPad หรืออุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งล่อใจลูกคุณมากแค่ไหน แต่คุณก็สามารถส่งเสริมให้ลูกมีนิสัยรักการอ่านได้
มีหลายวิธีที่คุณสามารถใช้ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านหนังสือให้ลูกได้ ในบทความนี้ เรามี 10 เคล็ดลับมาบอกกันเพื่อให้คุณเริ่มต้นเพื่อแก้ปัญหาลูกไม่ชอบอ่านหนังสือได้อย่างถูกต้อง:
1. วิธีที่น่าจะได้ผลที่สุดคือให้ลูกได้ใช้เวลาอยู่กับหนังสือตั้งแต่เขาอายุยังน้อย จากนั้นก็ค่อย ๆ เริ่มปลูกฝังการอ่านให้กับลูกโดยที่ไม่มีสิ่งรบกวนอื่น เช่น ทีวี โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ให้ลูกคุณได้เลือกหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน จากนั้น เขาจะสร้างนิสัยรักการอ่านขึ้นมาเอง
2. ทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น หากคุณเองก็มีนิสัยรักการอ่านหรือคุณอ่านหนังสือทุกครั้งที่คุณมีเวลาและมีโอกาส ลูกน้อยของคุณก็จะเลียนแบบนิสัยรักการอ่านของคุณ
3. หาหนังสือแนวที่ลูกชอบมาให้เขาให้มากเท่าที่จะทำได้ เพราะการได้อ่านหนังสือแนวที่ตนชอบจะช่วยจุดประกายนิสัยรักการอ่านได้
4. สอนให้ลูกอ่านสิ่งอื่น ๆ ด้วย ไม่เฉพาะในหนังสือ เช่น สอนให้เขาอ่านฉลากข้างกล่อง หรือป้ายโฆษณา เป็นต้น
5. ทำให้การอ่านเป็นเรื่องสนุก! พ่อแม่ส่วนใหญ่จะอ่านหนังสือให้ลูกฟังตอนที่ลูกยังเล็กอยู่ แต่พอลูกโตขึ้นพวกเขาก็อ่านน้อยลง มีงานวิจัยพบว่า เด็กที่พ่อแม่อ่านหนังสือให้ฟังตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อเขาโตขึ้นและพ่อแม่เลิกอ่านหนังสือให้ฟัง พวกเขาจะคิดถึงเวลาที่พ่อหรือแม่อ่านหนังสือให้ฟัง ดังนั้น แม้ลูกคุณจะโตแล้ว คุณก็สามารถอ่านหนังสือให้ลูกฟังได้ โดยอาจสลับให้แต่ละคนในครอบครัวเป็นคนอ่านให้สมาชิกคนอื่น ๆ ฟัง
6. ให้หนังสือเป็นของขวัญกับลูก การที่พ่อแม่ให้หนังสือกับลูกจะเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับเขา โดยเฉพาะหนังสือที่เขาอยากได้ การทำเช่นนี้จะช่วยสร้างนิสัยรักการอ่านให้ลูกได้ และจะทำให้ทั้งคุณและลูกมีความสุขที่เห็นเขาได้ไปนั่งในมุมโปรดเพื่ออ่านหนังสือที่เขาชื่นชอบ
7. พยายามส่งเสริมให้ลูกรักการอ่านให้มาก ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือที่เขาเพิ่งอ่านไป การทำเช่นนี้จะช่วยสร้างนิสัยรักการอ่านได้ การได้พูดคุยกับลูกเกี่ยวกับหนังสือที่เขาอ่านอย่างเป็นกันเอง แสดงถึงความเอาใจใส่และความสนใจที่คุณมีต่อหนังสือของเขาด้วย
8. หากลองวิธีอื่น ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้วลูกยังคงไม่ชอบอ่านหนังสือ การใช้สิ่งล่อใจลูกให้อ่านหนังสือก็ไม่ผิดอะไร พ่อแม่บางคนใช้วิธีนี้เพื่อจูงใจให้ลูกอ่านหนังสือ และพวกเขาก็รักการอ่านในที่สุดและไม่เรียกร้องสิ่งตอบแทนด้วย
9. การมีสิ่งกระตุ้นเป็นอีกวิธีที่ใช้ได้ผล ไม่ว่าเด็กเล็กหรือเด็กโตก็ต้องการการยอมรับในความพยายามอ่านหนังสือของพวกเขาทั้งนั้น ลองให้ดาวหรืออะไรก็ได้ที่คุณคิดว่าจะทำให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รางวัล ซึ่งแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่ดีพอสมควร
10. พาลูกไปห้องสมุดหรือร้านขายหนังสือ ไปในที่ที่มีหนังสือจำนวนมากเพื่อให้ลูกได้สนุกกับการสำรวจหนังสือต่าง ๆ มากมาย


อ่านต่อ: http://th.theasianparent.com/10-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b8%9d%e0%b8%b6%e0%b8%81%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%ad%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99/#ixzz2u1G8tc7e

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

อาหารประจำประเทศอาเซียน



อาหารอาเซียน เมนูเด็ดของ 10 อาหารประจําชาติอาเซียน


การก่อตั้งอาเซียน หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีประเทศสมาชิก คือ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม พม่า ลาว และกัมพูชา นอกจากเป็นการรวมตัวกันเพื่อช่วยพัฒนาประเทศในภูมิภาคเดียวกันแล้ว ยังก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของอาหารการกิน

          เนื่องจากแถบอาเซียนมีทรัพยากรค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้มีเมนูอาหารที่น่ารับประทาน และมีประโยชน์ต่อสุขภาพให้เลือกมากมาย  ดังนั้นเพื่อไม่ให้พลาดกับอาหารรสเลิศของประเทศต่าง ๆ ทางกระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวม อาหารอาเซียน กับ 10 เมนูเด็ดของ 10 ประเทศอาเซียน ที่ห้ามพลาดมากฝากกัน
ต้มยำกุ้ง - ประเทศไทย

1.ประเทศไทย 

          ต้มยำกุ้ง (Tom Yam Goong)  แค่เอ่ยชื่อก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ต้มยำกุ้งเป็นอาหารคาวที่เหมาะสำหรับรับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ กลิ่นหอมของสมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบในต้มยำกุ้ง นอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการเจริญอาหารได้เป็นอย่างดี

          และเนื่องจากต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่มีรสเปรี้ยว และเผ็ดเป็นหลัก ทำให้รับประทานแล้วไม่เลี่ยน จึงทำให้ต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมถึงชาวต่างชาติเองก็ติดอกติดใจในความอร่อยของต้มยำกุ้งเช่นเดียวกัน
อาม็อก - ประเทศกัมพูชา

2.ประเทศกัมพูชา

          อาม็อก (Amok) เป็นอาหารคาวยอดนิยมของกัมพูชา มีลักษณะคล้ายห่อหมกของไทย โดยเป็นการนำเนื้อปลาสด ๆ ลวกพริกเครื่องแกง และกะทิ แล้วทำให้สุกโดยการนำไปนึ่ง ซึ่งนอกจากจะใช้เนื้อปลาแล้ว อาจเลือกใช้เนื้อไก่แทนก็ได้ ส่วนสาเหตุที่คนในประเทศกัมพูชานิยมรับประทานปลา เนื่องจากสภาพภูมิประเทศของกัมพูชามีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ ทำให้ปลาเป็นอาหารที่หารับประทานได้ง่ายนั่นเอง
อัมบูยัต - ประเทศบรูไน

3.ประเทศบรูไน

          อัมบูยัต (Ambuyat) เป็นอาหารยอดนิยมของบรูไน มีลักษณะเด่นอยู่ที่ตัวแป้งจะเหนียวข้นคล้ายข้าวต้ม หรือโจ๊ก โดยมีแป้งสาคูเป็นส่วนผสมหลัก ตัวแป้งอัมบูยัตเอง ไม่มีรสชาติ แต่ความอร่อยจะอยู่ที่การจิ้มกับซอสผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงอีก 2-3 ชนิด เช่น ผักสด เนื้อห่อใบตองย่าง หรือเนื้อทอด  ทั้งนี้ การรับประทานอัมบูยัตให้ได้รสชาติ ต้องรับประทานตอนร้อน ๆ จึงจะดีที่สุด


หล่าเพ็ด - ประเทศพม่า

4.ประเทศพม่า

          หล่าเพ็ด (Lahpet) เป็นอาหารยอดนิยมของพม่า โดยการนำใบชาหมักมาทานกับเครื่องเคียง เช่น กระเทียมเจียว ถั่วชนิดต่าง ๆ งาคั่ว กุ้งแห้ง ขิง มะพร้าวคั่ว เรียกได้ว่า มีลักษณะคล้ายคลึงกับเมี่ยงคำของประเทศไทย ซึ่งหล่าเพ็ดนี้ จะเป็นเมนูอาหารที่ขาดไม่ได้ในโอกาสพิเศษหรือเทศกาลสำคัญ ๆ ของประเทศพม่า โดยกล่าวกันว่า หากงานเลี้ยง หรืองานเฉลิมฉลองใด ไม่มีหล่าเพ็ด จะถือว่าการนั้นเป็นงานที่ขาดความสมบูรณ์ไปเลยทีเดียว
อโดโบ้ - ประเทศฟิลิปปินส์

5.ประเทศฟิลิปปินส์

          อโดโบ้ (Adobo) เป็นอาหารยอดนิยมของประเทศฟิลิปปินส์ ทำจากเนื้อหมู หรือเนื้อไก่ ที่ผ่านการหมัก และปรุงรส โดยจะใส่น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว กระเทียมสับ ใบกระวาน พริกไทยดำ นำไปทำให้สุกโดยอบในเตาอบ หรือทอด แล้วนำมารับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ

         ในอดีตอาหารจานนี้เป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทาง เนื่องจากส่วนผสมของอโดโบ้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน เหมาะสำหรับพกไว้เป็นเสบียงอาหารระหว่างการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันอโดโบ้ได้กลายเป็นอาหารยอดนิยมที่นำมารับประทานกันได้ทุกที่ทุกเวลา

ลักซา - ประเทศสิงคโปร์

6.ประเทศสิงคโปร์

          ลักซา (Laksa) อาหารขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์ ลักซามีลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่กะทิ ทำให้รสชาติเข้มข้น คล้ายคลึงกับข้าวซอยของไทย โดยลักซาจะมีส่วนผสมของ กุ้งแห้ง พริก กุ้งต้ม และหอยแครง เหมาะสำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหารทะเลเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ลักซามีทั้งแบบที่ใส่กะทิ และไม่ใส่กะทิ ทว่า แบบที่ใส่กะทิจะเป็นที่นิยมมากกว่า
กาโด กาโด - ประเทศอินโดนิเซีย

7.ประเทศอินโดนีเซีย

          กาโด กาโด (Gado Gado) อาหารยอดนิยมของประเทศอินโดนีเซีย ประกอบไปด้วยผัก และธัญพืชหลากหลายชนิด  ทั้งแครอท มันฝรั่ง กะหล่ำปลี ถั่วงอก ถั่วเขียว นอกจากนี้ยังมีเต้าหู้ และไข่ต้มสุกด้วย กาโด กาโดจะนำมารับประทานกับซอสถั่วที่คล้ายกับซอสสะเต๊ะ อย่างไรก็ตาม ด้วยเครื่องสมุนไพรในซอส อาทิ รากผักชี หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ทำให้เมื่อรับประทานแล้วจะไม่รู้สึกเลี่ยนกะทิมากจนเกินไปนั่นเอง
สลัดหลวงพระบาง - ประเทศลาว

8. ประเทศลาว 

          สลัดหลวงพระบาง (Luang Prabang Salad) เป็นอาหารขึ้นชื่ออีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีรสชาติกลาง ๆ ทำให้รับประทานได้ทั้งชาวตะวันออก และตะวันตก โดยส่วนประกอบสำคัญคือ ผักน้ำ ซึ่งเป็นผักป่าที่ขึ้นตามริมธารน้ำไหล และยังมีส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น  มันแกว แตงกวา มะเขือเทศ ไข่ต้ม ผักกาดหอม และหมูสับลวกสุก ส่วนวิธีปรุงรสคือ ราดด้วยน้ำสลัดชนิดใส คลุกส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน แล้วโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และถั่วลิสงคั่ว

นาซิ เลอมัก - ประเทศมาเลเซีย

9.ประเทศมาเลเซีย

          นาซิ เลอมัก (Nasi Lemak) อาหารยอดนิยมของประเทศมาเลเซีย โดยนาซิ เลอมัก จะเป็นข้าวหุงกับกะทิ และใบเตย ทานพร้อมเครื่องเคียง อย่าง ได้แก่ ปลากะตักทอดกรอบ แตงกวาหั่น  ไข่ต้มสุก และถั่วอบ ซึ่งนาซิ เลอมักแบบดั้งเดิมจะห่อด้วยใบตอง และมักทานเป็นอาหารเช้า แต่ในปัจจุบัน กลายเป็นอาหารยอดนิยมที่ทานได้ทุกมื้อ และแพร่หลายในประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายแห่ง เช่น สิงคโปร์ และภาคใต้ของไทยด้วย

ปอเปี้ยะเวียดนาม - ประเทศเวียดนาม

10.ประเทศเวียดนาม 

          เปาะเปี๊ยะเวียดนาม  (Vietnamese Spring Rolls) ถือเป็นหนึ่งในอาหารพื้นเมืองที่โด่งดังที่สุดของประเทศเวียดนาม ความอร่อยของเปาะเปี๊ยะเวียดนาม อยู่ที่การนำแผ่นแป้งซึ่งทำจากข้าวจ้าวมาห่อไส้ ซึ่งอาจจะเป็นไก่ หมู กุ้ง หรือหมูยอ โดยนำมารวมกับผักสมุนไพรอีกหลายชนิด เช่น สะระแหน่ ผักกาดหอม และนำมารับประทานคู่กับน้ำจิ้มหวาน โดยจะมีถั่วคั่ว แครอทซอย ไชเท้าซอย ให้เติมตามใจชอบ และบางครั้งอาจมีเครื่องเคียงอย่างอื่นเพิ่มด้วย